Pariwat

“Once you go Mac, you never go back”

เป็นข้อความซึ่งได้ยินบ่อยจากผู้ที่ switch จาก PC มาเป็น Mac แต่ความคุ้นเคยกับ OS X ต้องใช้เวลาปรับตัวพอสมควร

หนังสือเล่มนี้ได้รวบรวมเทคนิค ทางลัด ที่จะช่วยให้คุณใช้งาน Tiger ได้เต็มประสิทธิภาพอย่างรวดเร็ว

ผู้เขียน ทีมงานแฟนพันธุ์แม็ค
โดย คณะบุคคลอักษรโชติช่วง
ISBN 974-93239-3-9
ความหนา 308 หน้า
ราคา 199 บาท

จากใจคนใช้ Windows มาตั้งแต่เวอร์ชั่น 3.0

เท่าที่จำได้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้เป็นเรื่องเป็นราวในสมัยก่อน หน้าจอยังเป็นแบบ Command line ต้องพิมพ์โต้ตอบ จำคำสั่งกันเป็นว่าเล่น ไม่ว่าจะเป็น dir, dir/w, format a: ฯลฯ กันวุ่นวายไปหมด

พอเห็นเจ้าโปรแกรม Windows ก็ดีใจที่ต่อไปนี้ไม่ต้องจำคำสั่งให้ปวดหัวอีกแล้ว เพียงใช้เมาส์คลิ๊กที่ไอคอนลากไปลากมาก็ใช้งานได้แล้ว หน้าจอก็ดูมีสีสัน ไม่ใช่พื้นดำ ตัวหนังสือขาว (บางทีก็เขียว) อีกต่อไป

แต่พอใช้ไปนานเข้า ก็มีปัญหาอย่างอื่นเข้ามาแทนที่ เดี๋ยวเครื่องก็ค้างบ้าง หรือถ้าไม่ค้างก็ให้คอยดูเจ้านาฬิกาทรายกลิ้งไปกลิ้งมาบนหน้าจอ เรื่องนี้ยังพอทน คิดว่าเป็นข้อบกพร่องของระบบ ซึ่งเวลาผ่านไปน่าจะแก้ไขให้ดีขึ้น อย่างไรก็ตามสิ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือหลังจากลงโปรแกรมเพิ่มลงไปแล้ว เครื่องยิ่งทำงานช้าลง ช้าลง ใช้ไปได้สักไม่กี่ชั่วโมง ต้องรีบู๊ทเครื่องใหม่ จากนั้นก็จะค่อยๆ ช้าลงไปอีก ตอนแรกก็คิดว่าเครื่องของเรากำลังไม่พอ ไปเดินตะลุยหาซื้อหน่วยความจำเพิ่ม เติมฮาร์ดดิสค์ลูกใหม่ ใส่การ์ดจอ (เพราะเข้าใจว่าการแสดงผลในหมวดกราฟฟิคจำเป็นต้องมีเครื่องช่วย) จนหมดงบประมาณไปไม่ใช่น้อย ในช่วงแรกก็เร็วขึ้นมาหน่อย จากนั้นก็อืดลงตามระเบียบ

เอาล่ะ แก้ปัญหาที่ฮาร์ดแวร์ไม่ได้ ลองมาลดจำนวนโปรแกรมที่ใส่ในเครื่องดู ก็มาเจอปัญหาอีกคือเวลา uninstall แล้วมันยังมีบางไฟล์คงค้างอยู่ในเครื่อง หากฝืนลบไฟล์เหล่านี้ทิ้ง บางทีทำให้โปรแกรมอื่นรวน ก็เลยต้องจำใจปล่อยคาไว้ในเครื่อง เปลืองทั้งเนื้อที่ในฮาร์ดดิสค์ เปลืองทั้งหน่วยความจำ

แต่ด้วยความที่จำเป็นต้องทำงาน อีกทั้งใครๆ เค้าก็ใช้กัน ทำให้ต้องทนใช้ต่อไป แล้วก็ได้แต่ภาวนาว่าเมื่อใดที่ทางผู้พัฒนาออกโปรแกรมเวอร์ชั่นใหม่ จะได้แก้ปัญหาต่างๆ เหล่านี้เสียที

สิบกว่าปี Windows XP ก็ยังเหมือนเดิม

ตั้งแต่สมัยเรียน จนเรียนจบทำงาน เปลี่ยนงานไปก็หลายหน แต่สิ่งหนึ่งที่ยังไม่ได้เปลี่ยนก็คือจำต้องใช้เจ้าคอมพิวเตอร์ (เกลอแก้ว) ประกอบอาชีพ ไอ้จะเปลี่ยนไปใช้ Linux ก็แก่เกินกว่าจะไปเรียนอะไรใหม่ๆ แล้ว จึงจำต้องทนใช้ต่อไป

จนกระทั่งมาวันหนึ่งมันเกินกว่าที่จะทนรับไหว คือมีคนส่งเมลล์มาให้ บอกว่าเว็บนี้มีอะไรดีดีที่น่าสนใจเยอะ ก็คิดว่าแค่เว็บไซท์จะเป็นอะไรไป ไม่ได้ดาวน์โหลดโปรแกรมมารันบนเครื่องเสียหน่อย เกิดปัญหามากก็ปิด Internet Explorer (ชื่อยาวต่อไปขอเรียกสั้นๆ ว่า IE ไม่ใช่ อ้ายอี นะครับ) ซะก็สิ้นเรื่อง

พอเปิดเว็บเข้าไปเท่านั้นแหละ อะไรต่อมิอะไรก็ไม่รู้ มันโผล่มาบนหน้าจอเต็มไปหมด จากนั้นเครื่องก็เริ่มช้าลงจนกระทั่งทำอะไรไม่ได้ พอปิด IE เปิดใหม่ คราวนี้มันกระโดดไปที่เว็บไหนก็ไม่รู้ แล้วทำงานอะไรอย่างอื่นไม่ได้ เปิดโปรแกรมอื่นก็ไม่ได้อีก พรุ่งนี้มีงานที่จะต้องส่งก็ทำอะไรไม่ได้ สุดท้ายต้องฟอร์แมทเครื่องใหม่ ผลเหรอครับ นั่งทำใหม่ยันเช้า

ไปถามคนที่เค้ารู้เค้าบอกว่าเครื่องเจอปัญหาที่เรียกว่า Malware แปลเป็นไทยก็คือ ซอฟท์แวร์ที่เป็นพิษภัยต่อเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นอย่างยิ่ง เดี๋ยวนี้มันเข้ามาทางบราวเซอร์ได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดโปรแกรมมาลงเครื่องให้เสียเวลา

ไวรัส สปายแวร์ สแปมเมลล์

มีเวลาว่างๆ ไปนั่งค้นข้อมูลในเว็บ ก็พบว่าเดี๋ยวนี้มีคนพัฒนาโปรแกรมที่มีฤทธิ์เยอะอยู่เยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นไวรัส สปายแวร์ สแปมเมลล์ และอะไรต่อมิอะไรอีกมาก ทำไมถึงเอาเวลาไปพัฒนาโปรแกรมเหล่านี้ก็ไม่ทราบได้ แต่ที่ทราบคือระบบปฏิบัติการใดที่มีคนใช้เป็นจำนวนมาก เจ้ามนุษย์พวกนี้จะชอบเป็นอย่างยิ่งเพราะเวลาทำสำเร็จแล้วมันเกิดความเสียหายจำนวนมาก อาจจะเป็นเพราะความสะใจที่เห็นข้าวของคนอื่นเค้าเสียหาย หรืออยากประกาศให้โลกรู้ว่าข้าแน่

Windows และ IE นั้นเป็นของที่พัฒนามาคู่กัน ดังนั้นผู้คนเกินกว่าเก้าสิบห้าเปอร์เซนต์ที่ใช้ Windows ย่อมต้องใช้ IE เป็นเว็บบราวเซอร์ อีกทั้งทางไมโครซอฟท์เองก็ตั้งใจที่จะให้ IE เป็นหน้าจอติดต่อกับโลกภายนอก ย่อมทำให้รูรั่ว (Vulnerabilities) ง่ายต่อการเจาะเข้ามาอีก ด้วยเหตุนี้จึงไม่จำเป็นต้องโหลดโปรแกรมมาลงในเครื่อง เพียงแค่เข้าไปในเว็บที่มีสคริปต์เหล่านี้ฝังอยู่ ก็ย่อมเป็นการเปิดโอกาสให้เจ้า Malware เหล่านี้เข้ามาในเครื่องได้

ยิ่งมีคนโดนเจ้าโปรแกรมตัวแสบเหล่านี้สร้างความเสียหายมากเท่าไหร่ สื่อมวลชนก็ยิ่งประโคมข่าวกันมากเท่านั้น ทำให้คนเก่ง (แต่นิสัยไม่ค่อยดี) ก็ยิ่งอยากที่จะเขียน Malware เพื่อที่จะสร้างชื่อเสียงให้ตัวเองมากขึ้นไปอีก

มองหาทางเลือกในการท่องเว็บ (Alternative Browser)

เมื่อเป็นเช่นนี้ เห็นทีว่าถ้าทนต่อไปคงจะไปไหนได้ไม่ไกลแน่ จึงเริ่มหาทางเลือกใหม่ ที่ไม่ใช่ IE เพื่อมาท่องเว็บ ในตอนนั้นไม่ได้คิดไกลไปถึงกับเปลี่ยนระบบไปเป็นอย่างอื่น ก็พอดีที่ว่ามีเว็บบราวเซอร์ที่เป็นแบบ Open Source ออกมาตัวหนึ่งคือ Firefox ที่เริ่มเป็นที่รู้จักแต่ในวงแคบๆ พอลองไปดาวน์โหลดมาเล่น ก็พบว่าใช้งานได้สะดวก ตัวเล็กนิดเดียว แถมเร็วอีกต่างหาก แต่ที่ชอบมากๆ คือจะมีการอัพเดตเวอร์ชั่นเร็วมาก เพราะใครที่ดาวน์โหลดไปเล่นแล้ว อยากเปลี่ยนแปลง ปรับปรุง ก็สามารถทำได้โดยสะดวกเพราะไม่มีการปิดบังซอร์สโค๊ด

หลังจากเล่นไปได้สักระยะหนึ่ง ก็ลืมเจ้า IE ไปเลย เพราะปัญหาเกี่ยวกับโปรแกรม Malware ลดลงไปเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังทำงานได้อย่างรวดเร็ว จนทำให้เกิดความคิดว่า หลายๆ ปีที่ผ่านมา เราเปรียบเสมือนกบที่อยู่ในกะลาตราไมโครซอฟท์ ที่อะไรต่อมิอะไรก็ต้องใช้ไมโครซอฟท์ อาจจะเป็นเพราะว่าโปรแกรมเหล่านี้มันติดมากับวินโดว์ หรือว่าเป็นเพราะคนอื่นเค้าใช้กันแล้วเราไปใช้อย่างอื่นจะทำให้แลกเปลี่ยนข้อมูลกับชาวบ้านเค้าไม่ได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วยังมีซอฟท์แวร์อีกมากมายหลายตัวที่ทำงานทดแทนโปรแกรมมาตรฐานเหล่านี้ได้ บางตัวทำงานได้ดีกว่าด้วยซ้ำ

iPod เครื่องเล่น MP3 ธรรมดาที่ไม่ธรรมดา

ชีวิตดำเนินต่อไป วงการคอมพิวเตอร์ก็มีอะไรใหม่ๆ เพิ่มขึ้นมากมาย จนกระทั่งวันหนึ่งที่ได้รู้จักกับเครื่องเล่น MP3 ตัวหนึ่งที่ชื่อว่า iPod ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ของแอปเปิลที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในเมืองนอก บังเอิญมีเพื่อนคนหนึ่งเค้านำเจ้าเครื่องนี้มาขาย ก็เลยแวะไปดูเสียหน่อยว่าหน้าตามันเป็นอย่างไร บังเอิญเป็นคนชอบฟังเพลงอยู่แล้ว ก็เลยอดไม่ได้ที่จะอุดหนุนมาหนึ่งตัวตามระเบียบ

หลังจากได้ iPod มาแล้ว ก็จำเป็นต้องลงโปรแกรมที่ชื่อว่า iTunes ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่มีไว้เพื่อโอนเพลงจากเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราไปยังเจ้า iPod ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ติดตั้งตามปกติ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

พอติดตั้งเสร็จ ทดลองเล่น ปัญหาก็ไม่มี เพียงแต่การจัดวางเมนู มันเปลี่ยนตำแหน่งไป ใช้งานได้ต้องปรับนิดหน่อย แต่ที่ดูแล้วมันเข้าท่า ก็คือการใช้งานโปรแกรมนี้ทำได้ง่ายมาก หน้าจอไม่สลับซับซ้อน เรียนรู้ได้เร็ว และที่สำคัญที่สุดคือมันเข้ากับ iPod ได้เป็นอย่างดี เช่น เราสร้าง Playlist เอาไว้ใน iTunes พอเราเอาเจ้า iPod มาซิงค์โครไนซ์ Playlist ที่เราสร้างก็จะไปปรากฏในหน้าจอของ iPod โดยอัตโนมัติ การค้นหาเพลงก็ทำได้หลากหลายวิธีไม่ว่าจะเป็นการเรียงตามอัลบั้ม เรียงตามศิลปิน ฯลฯ

ส่วนตัวเจ้า iPod เองก็แสนจะใช้งานง่าย มีปุ่มอยู่เพียงแค่ไม่กี่ปุ่ม แต่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะเลือกเพลง เปลี่ยนอัลบั้ม จัด Playlist กันสดๆ เดี๋ยวนั้น อีกทั้งยังจำได้อีกว่าเพลงไหนที่เราฟังบ่อยๆ หรือเพลงไหนที่เรากำหนดให้เป็นเพลงโปรดก็ใส่ดาวลงไปได้ ทั้งๆ ที่ตัวเครื่องมีปุ่มอยู่ไม่เกินห้าปุ่ม พอนำกลับมา Sync กับ iTunes ในคอมพิวเตอร์ ก็แสดงผลออกมาอย่างง่ายดาย

อีกจุดหนึ่งที่น่าจะเป็นประโยชน์มากใน iTunes คือการค้นหาชื่อเพลงที่ต้องการจากคอลเลคชั่นที่มีเป็นพันเพลงได้ภายในพริบตา แสดงว่าการเขียนโปรแกรมจะต้องมีวิธีที่ดีมาก เพราะขณะพิมพ์ชื่อเพลงที่ต้องการยังไม่ครบ รายชื่อของเพลงที่ตรงตามเงื่อนไขก็แสดงออกมาให้ดู และเมื่อพิมพ์ตัวอักษรมากขึ้น รายชื่อทั้งหมดก็จะลดลง (narrow down) ให้เห็นแบบทันทีทันใด (real-time)

ยิ่งได้ใช้เจ้า iPod + iTunes มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งพบว่าจริงๆ แล้วไม่จำเป็นต้องใส่ feature เข้ามาเยอะแยะ เพราะยิ่งคุณสมบัติมาก Bug ก็ยิ่งมากตาม ใส่แต่เฉพาะที่จำเป็น แล้วปรับแต่งให้มันดีที่สุด เหมาะสมกับงานมากที่สุด ย่อมน่าจะเป็นวิธีที่ดีกว่า

บางทีมานั่งรำพึงกับตัวเองว่า ถ้ามีคอมพิวเตอร์ที่มันใช้งานง่ายอย่างนี้ ก็คงจะดีไม่ใช่น้อย

มีอยู่วันหนึ่ง ทางบริษัท Apple เค้าออกข่าวมาว่าจะมีการอัพเดตโปรแกรม iTunes เป็นเวอร์ชั่นใหม่ ให้ไปดาวน์โหลดได้ที่เว็บ Apple.Com ด้วยความชอบก็เลยเข้าไปเสียหน่อย ก็บังเอิญไปเห็นเจ้าเครื่อง Mac รุ่นใหม่ในตอนนั้นที่ตัวเล็กกระจิ๋วเดียว แถมตั้งชื่อน่ารักเสียด้วยว่า Mac Mini เหมือนกับ iPod Mini ยังไงยังงั้น อีกทั้งราคาก็ไม่ได้สูงจนเอื้อมไม่ถึง ในตอนนั้นราคาขายอยู่ที่ 499 เหรียญ คูณเป็นเงินไทย ก็ประมาณสองหมื่นนิดๆ ก็ไม่ได้ถึงกับแพงจนรับไม่ได้

วันรุ่งขึ้นเป็นวันหยุด จึงถือโอกาสไปเยี่ยมเยียนร้านแม็คเสียหน่อย

สุนัขพันธุ์ Golden Retriever ส่วนใหญ่แล้วมักจะมีข้อสะโพกหลังที่ไม่แข็งแรง จึงต้องเสริมสร้างกล้ามเนื้อโดยการว่ายน้ำ

เจ้ากำปั่น เค้าชอบว่ายน้ำเป็นที่สุด เที่ยวนี้ได้เพื่อนใหม่เป็น Rotweiler ชื่อ ออสการ์ น่ารักเชียว

ผู้เขียน ทีมงาน SCM Semitech
โดย คณะบุคคลสมาร์ทโฟนส์
ISBN 974-93755-4-8
ราคา 195 บาท

เอาไว้ทำงานเวลาอยู่บ้านครับ

ส่วนอีกรูปนี่เป็นเจ้าของศาลาครับ

หนังสือ เรียนรู้ Google Earth
หมายเลข ISBN 974-93239-4-7
โดย สลิลทิพย์ ชีระภากร และ ทิพย์วรรณ สุภาควัฒน์
ราคา 179 บาท

คงมีผู้คนไม่น้อยที่ใฝ่ฝันที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวในดินแดนต่างๆทั้งในประเทศ และประเทศต่างๆทั่วโลก เพื่อเป็นการเปิดโลกทัศน์ของตนเอง ในอดีตการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆนั้นต้องใช้เวลาเป็นแรมเดือน แรมปี แม้ว่าในปัจจุบันการเดินทางได้อย่างรวดเร็วมากขึ้นแต่ก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายค่อนข้างมาก อีกทั้งยังต้องใช้เวลาในการเดินทางอีกไม่ใช่น้อย จริงอยู่ที่การศึกษาจากสื่อหรือสารคดีต่างๆ ทั้งทางวิทยุหรือโทรทัศน์ก็เป็นการนำเสนอของผู้ที่ต้องการนำเสนอแต่ฝ่ายเดียว ซึ่งอาจตรงตามความต้องการของผู้ชมหรือผู้ฟังมากบ้างน้อยบ้าง ดังนั้นเครื่องมือที่ช่วยให้เราสามารถแสวงหาสิ่งต่างๆได้ตามความต้องการของผู้ใช้ซึ่ง มีหลากหลายและแตกต่างกันจึงเป็นสิ่งที่จะมีประโยชน์อย่างมาก

โปรแกรม Google Earth ซึ่งเป็นหนึ่งในหลายบริการของ Google.Com ช่วยให้เราสามารถสืบค้นสถานที่น่าสนใจผ่านทาง Internet ได้จึงนับว่าเป็นโปรแกรมหนึ่งที่นำมาใช้ตอบสนองความต้องการส่วนบุคคล ในการค้นหา หรือศึกษาเกี่ยวกับพื้นที่ต่างๆทั่วทั้งโลกใบนี้ของเรา และยังใช้เป็นเครื่องมือช่วยในการนำทางหรือวางแผนในการเดินทางได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังอาจนำไปประยุกต์ใช้กับงานต่างๆ เช่นการพัฒนาที่ดิน หรือสิ่งอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับสภาพแวดล้อมให้เป็นประโยชน์ต่อส่วนตัวและส่วนรวมได้อีกมากมาย

เมื่อมองเห็นประโยชน์อย่างมากมายของโปรแกรม Google Earth นี้แล้ว หลายท่านคงต้องการใช้โปรแกรมนี้ แต่การใช้งานโปรแกรมใดๆ ให้ได้ประโยชน์อย่างเต็มที่ก็คงต้องเริ่มต้นจากการศึกษาวิธีการใช้งานของโปรแกรมให้ถี่ถ้วน หนังสือเล่มนี้เกิดจากความพยายามที่จะใช้โปรแกรม Google Earth เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด จึงนับว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อท่านผู้ที่สนใจโปรแกรมนี้บ้าง

ผมชื่อกำปั่นครับ

หนังสือ คล่องแคล่ว PLC
โดยทีมงาน SCM Institution
ราคา 195 บาท
ISBN 974-93021-3-3
คณะบุคคลพีดีเอแม็กซ์

คำถามยอดฮิต พิชิต พ็อคเก็ตพีซี
โดย สมเกียรติ จารุพัฒนพรกิจ (julongpalm)
ราคา 195 บาท
ISBN 974-93239-6-3
คณะบุคคลพีดีเอแม็กซ์

คำถามยอดฮิต ติด Nokia Series 60
โดย วิโรจน์ เรืองแสงศิลป์, กมลทิพย์ ศีระสุวรรณ์, อภินันท์ จิตตคาม
ราคา 195 บาท
ISBN 974-93239-7-1
คณะบุคคลพีดีเอแม็กซ์

สะใจ Tiger
โดย Adil P Sudjareat
ราคา 195 บาท
ISBN 974-93239-5-5
คณะบุคคลพีดีเอแม็กซ์

ครบเครื่อง เรื่อง iPAQ
โดย ทีมงาน SCM Semitech
ราคา 195 บาท
ISBN 974-93239-2-0
คณะบุคคลพีดีเอแม็กซ์